"รวมทุกอย่างของ Edward Snowden"
เอเจนซีส์ - ในการให้สัมภาษณ์กับรายการบีบีซี “พาโนรามา” ในคืนวันจันทร์ (5 ต.ค.) เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลสหรัฐฯ ที่ได้แฉข้อมูลโครงการจารกรรมลับของรัฐบาลอเมริกา ประกาศ “พร้อมยอมรับโทษจำคุกในเรือนจำ” หากได้กลับคืนสู่สหรัฐฯ บ้านเกิด
RT สื่อรัสเซีย รายงานวันนี้ (6) ถึงการตอบข้อซักถามในรายการบีบีซี “พาโนรามา” ของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลสหรัฐฯ ล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ (5) ในการเดินทางกลับสหรัฐฯ โดยแลกกับการต้องถูกส่งเข้าเรือนจำเพื่อรับโทษ
โดยสโนว์เดนที่ขณะนี้ยังลี้ภัยอยู่ในรัสเซียกล่าวตอบว่า “แน่นอนที่สุด” จากการรายงานของสื่ออังกฤษ เดอะการ์เดียน พร้อมกับกล่าวต่ออย่างอารมณ์ดียืนยันว่า “ความจริงแล้วผมขอเสนอตัวส่งตัวเองเข้าสู่ห้องขัง” และสโนว์เดนยังกล่าวต่ออีกว่า “ผมได้อาสาที่จะเข้าห้องขังพร้อมกับรัฐบาลตั้งหลายครั้ง” แต่อย่างไรก็ตาม จอมแฉข้ามโลกยังยืนยันว่า “แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจะไม่กระทำคือการเป็นผู้ขัดขวางต่อต้านต่อใครก็ตามที่กำลังพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องในสถานการณ์ที่ยากลำบาก”
แต่กระนั้นถึงแม้สโนว์เดนจะยื่นความปรารถนาที่จะยอมเข้าคุกเพื่อยอมรับโทษในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ทางกระทรวงยุติรรมสหรัฐฯ ยังไม่ตอบกลับมาในเรื่องนี้
โดยมือแฉอดีตเจ้าหน้าที่ NSA สหรัฐฯ กล่าวว่า “เรายังคงรอการติดต่อกลับจากทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ”
และสื่อรัสเซียยังรายงานเพิ่มเติมต่อว่า ในรายการบีบีซีเมื่อวานนี้ ยังมีการสัมภาษณ์ไมเคิล เฮย์เดน (Michael Hayden) อดีตผู้อำนวยการ CIA และล่าสุดเพิ่งเกษียณจากการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ NSA ถึงการกลับสหรัฐฯ ของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนว่า “หากคุณถามผมถึงเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผมว่าเขาคงตายอยู่ในมอสโก เขาจะไม่กลับมาอเมริกา” เฮย์เดนกล่าว
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้เคยเรียกร้องให้เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน กลับมาเผชิญกับข้อกล่าวหาโทษอุกฉกรรจ์ภายใต้กฎหมายจารกรรมลับ โดยหากเขาถูกตัดสินมีความผิดจริงอาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุดถึง 30 ปีในเรือนจำ แต่อย่างไรก็ตาม สโนว์เดนไม่ยินยอมเนื่องจากว่าการขึ้นไต่สวนภายใต้ความผิดนี้ ผู้ถูกกล่าวหาจะไม่มีโอกาสสามารถใช้ข้ออ้างการเปิดเผยความลับเพื่อประโยชน์สาธารณะได้
นอกจากนี้ยังพบว่า ในการขึ้นศาลไต่สวนนั้น ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลลับของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่ได้แฉโครงการสอดแนมของหน่วยงาน NSA ออกมาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยในชั้นศาล และทางรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จำเป็นต้องพิสูจน์ว่าสโนว์เดนเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลทั้งหมดสู่สาธารณะ
ข่าวที่นาย Edward Snowden ชาวอเมริกันวัย29 ปี ลูกจ้างชั่วคราวขององค์กรราชการลับอย่าง NSA(NationalSecurity Agency) ที่มีหน้าที่หาข้อมูลจากข่าวสารต่างๆตามหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อนำข้อมูลต่างๆเหล่านี้ส่งเก็บไปที่ฐานข้อมูลให้กับองค์กรอย่าง NSA นั้นก็ปรากฏว่าจู่ๆนาย Edward Snowden ไปให้สัมภาษณ์กับหนังสือของอังกฤษ theGuardian ว่าองค์กรอย่าง NSA ได้ทำการดับฟัง(eavesdropping)การพูดจาของคนอเมริกันเป็นจำนวนหลายล้านคนรวมถึงการเข้าไปเจาะข้อมูลแบบจารชน(spy)ทางสื่ออินเตอร์เนทของชาติต่างๆทั่วโลก
นาย Edward บอกหนังสือพิมพ์the Guardian ว่า 'คุณจะนึกไม่ถึงหรอกว่าความสามารถของพวกเขา(NSA)มีมากเพียงใดและเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวมาก...' และเขายังกล่าวต่อไปว่า'...ผมไม่ต้องการจะอยู่ในโลกที่ทุกอย่างถูกทำการบันทึกหรือถูกจับตามอง...นี่คือสิ่งที่ผมไม่ต้องการเข้าไปสนับสนุนหรือต้องการใช้ชีวิตแบบนี้...'และท้ายสุดนาย Edward ก็ได้กล่าวว่า 'ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้กลับบ้านเกิดอีกแล้วแม้ว่าผมต้องการจะกลับบ้าน'
ก็แปลกดีครับ ที่คำให้สัมภาษณ์ของนาย EdwardSnowden กับหนังสือพิมพ์ the Guardian เกิดขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดีของจีนนายสี จิ้งผิงเดินทางไปพบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานายบารัค โอบามาและบทสนทนาที่สำคัญยิ่งระหว่างผู้นำทั้งสองชาตินี้ก็คือเรื่องการจารกรรมข้อมูลระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาว่าเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับทั้งจีนและสหรัฐอเมริกามาก
แต่การให้สัมภาษณ์ของนาย EdwardSnowden ดูคล้ายจะตอกย้ำว่า ตัวสหรัฐอเมริกาเองซึ่งผ่านทางหน่วยงานรัฐอย่างองค์กร NSA ต่างหากที่คอยไปเจาะเก็บข้อมูลของชาติต่างๆ ซึ่งแน่นอนจีนก็ย่อมเป็นชาติที่ต้องโดนองค์กรอย่าง NSA เข้าเจาะข้อมูล(hacking)อย่างต่อเนื่องเพราะพนักงานของทาง NSA อย่างนาย Edward Snowden ก็ได้ออกมายอมรับว่าNSA มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง แม้ว่าเขาไม่ได้พูดเฉพาะเจาะจงว่า NSAเล่นงานเจาะข้อมูลของจีนเพียงชาติเดียว
และที่น่าแปลกใจอีกอย่าง คือนาย Edwardให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวในขณะที่เขาพักอยู่ที่ฮ่องกง(เขาได้เดินทางออกจากโรงแรมที่ฮ่องกงไปแล้วตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน)ซึ่งเป็นเขตภายใต้การปกครองของจีนดังนั้นทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะขอให้ทางจีนส่งตัวเขากลับไปยังสหรัฐอเมริกาทันทีนั้นจีนก็อาจย่อมมีการสงวนท่าทีบ้างแม้ว่าตอนที่ฮ่องกงอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรนั้นทางสหราชอาณาจักรสามารถที่จะส่งคนที่ทางรัฐบาลชาติอื่นขอตัวนำกลับประเทศที่ทำเรื่องเรียกร้องมาซึ่งสามารถทำได้
แต่ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือนาย EdwardSnowden ถ้าดูแล้ว เขาก็ไม่ได้เป็นสายลับให้กับชาติใดไม่เหมือนอย่างในยุคสงครามเย็น ที่ทางสหรัฐอเมริกาและทางสหภาพโซเวียดต่างมีสายลับล้วงข้อมูลระหว่างกัน ถ้าถูกจับได้ว่ามีการทำงานให้กับชาติศัตรูก็จะถูกดำเนินคดี ในอดีตถึงกับทำโทษถึงขั้นประหารชีวิต
สิ่งที่นาย Edward Snowden ให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์the Guardian คือองค์กรอย่าง NSA ได้เข้าไปล้วงลูกเจาะข้อมูลของชาติต่างๆผ่านทางอินเตอร์เนทและทำการล้วงลูกเจาะข้อมูลของคนอเมริกันที่มีจำนวนเป็นล้านคือเล่นงานคนชาติเดียวกันอีกด้วย
นายบารัค โอบามาได้พูดกับสื่อว่า สิ่งที่นาย Edward Snowden ออกมาให้สัมภาษณ์นั้นไม่เป็นความจริงเลย รัฐบาลอเมริกันมีหน้าที่ปกป้องความปลอดภัยต่อพลเมืองอเมริกันเท่านั้น
ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าคำว่าปกป้องพลเมืองอเมริกันนั้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้ rated อะไรในการวัดเช่น rated G, rated PG, rated R, rated X, rated XXX เพราะสิ่งที่นายEdward พูดว่าทาง NSA เข้ามาล้วงเจาะข้อมูลคนอเมริกันและคนทั้งโลกเป็นความจริงตามที่เขาให้สัมภาษณ์และนายโอบามาก็ไม่ได้ปฎิเสธแบบได้ใจคนอเมริกันทั้งหมดเพียงแต่บอกว่ารัฐบาอเมริกันต้องการปกป้องความปลอดภัยของคนอเมริกัน
ตอนนี้ทางสื่อก็ได้มีการขุดคุ้ยประวัติของนายEdward Snowden อย่างเต็มที่ ดูเขาเรียนหนังสือไม่จบชั้นมัธยมปลายแต่มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ดีมาก และได้ถูกว่าจ้างเป็นเงินค่อนข้างแพงให้ทำงานแบบลูกจ้างชั่วคราวให้กับองค์กรอย่าง NSA ซึ่งก็แปลกดีที่ทางNSA ว่าจ้างพนักงานชั่วคราวอย่างนาย Edward มาทำงานให้กับทาง NSA
'สหรัฐอเมริกา ใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรมและความล้ำเลิศทางเทคโนโลยีในการเจาะหาติดตามข้อมูลของผู้อื่นอย่างน่าสะพรึงกลัวมาก'นาย Edward กล่าว
ตอนนี้นาย Edward Snowden คงต้องคอยหลบหนีการติดตามไล่ล่าของรัฐบาลสหรัฐฯมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลก ก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปจบหรือลงเอยที่ไหน
'If you live another day. I will be very impressed'
ประโยคดังกล่าวมาจากภาพยนตร์เรื่อง theEnemy of the State(1998) ที่ทางหน่วยงานรัฐทาง NSA พูดกับพวกที่กำลังถูกทางรัฐบาลไล่ล่าอยู่เพราะถูกมองว่าเป็นศัตรูของรัฐบาล
ครับคุณ Edward Snowden 'If youlive another day. I will be very impressed'
วันนี้ผมจะขอปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เล่น facebook ไม่ส่งอีเมล์ แล้วก็จะไม่ chatกับใครเพื่อทำใจให้กับตัวเองครับ
นายสโนว์เดน เคยได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นการบังหน้า แต่ความจริงเป็นสายลับอเมริกันที่เข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตที่ใช้จารกรรมข้อมูลต่างๆ ของทุกหน่วยงานทั่วโลก รวมทั้งสามารถเข้าถึงข้อมูลของบริษัทเอกชนที่ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตได้หมด แม้ว่าบริษัทกูเกิล เฟซบุ๊ก ไมโครซอฟท์ จะปฏิเสธว่าไม่ได้ให้ข้อมูลกับกระทรวงกลาโหมโดยตรงแต่ก็ยอมรับว่าให้ทางอ้อม
นายสโนว์เดน เปิดเผยความลับนี้ให้กับ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน ของอังกฤษ และต่อมาก็ให้กับ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เมื่อเขาเดินทางจากฮาวายซึ่งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติมีสาขาอยู่ที่นั่นไปที่ฮ่องกง เพราะเขาเชื่อว่าฮ่องกงคงไม่ส่งเขากลับไปสหรัฐเมื่อถูกดำเนินคดี ซึ่งเหมือนกับนายทหารชื่อ แบรดลี แมนนิ่ง ที่ส่งเอกสารลับของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐให้กับเว็บไซต์วิกิลีก เป็นข่าวเกรียวกราวถึงเอกสารรายงานของสถานทูตอเมริกันทั่วโลกที่ส่งให้กระทรวงต่างประเทศซึ่งมีเอกสารจากสถานทูตอเมริกันที่กรุงเทพฯส่งกลับไปวอชิงตันด้วย
นายสโนว์เดน เปิดเผยความลับนี้ให้กับ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน ของอังกฤษ และต่อมาก็ให้กับ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เมื่อเขาเดินทางจากฮาวายซึ่งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติมีสาขาอยู่ที่นั่นไปที่ฮ่องกง เพราะเขาเชื่อว่าฮ่องกงคงไม่ส่งเขากลับไปสหรัฐเมื่อถูกดำเนินคดี ซึ่งเหมือนกับนายทหารชื่อ แบรดลี แมนนิ่ง ที่ส่งเอกสารลับของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐให้กับเว็บไซต์วิกิลีก เป็นข่าวเกรียวกราวถึงเอกสารรายงานของสถานทูตอเมริกันทั่วโลกที่ส่งให้กระทรวงต่างประเทศซึ่งมีเอกสารจากสถานทูตอเมริกันที่กรุงเทพฯส่งกลับไปวอชิงตันด้วย
การกระทำของสำนักข่าวกรองกลางและสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ แม้จะอ้างว่าเป็นการกระทำเพื่อปกป้องประเทศชาติและประชาชนอเมริกัน แต่ก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญ เป็นการคุกคามเสรีภาพส่วนบุคคลโดย รัฐ สิทธิของประชาชนในการมี ความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในทรัพย์สินและเคหสถานเป็นเสรีภาพสำคัญที่ รัฐ จะต้องเคารพตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
รัฐบาลอเมริกันคงจะตั้งข้อหานายสโนว์เดนทำความผิดฐานขัดขวาง พ.ร.บ.จารกรรมความลับหรือ Espionage Act เพื่อช่วยศัตรูของชาติ
รัฐบาลอเมริกันคงจะตั้งข้อหานายสโนว์เดนทำความผิดฐานขัดขวาง พ.ร.บ.จารกรรมความลับหรือ Espionage Act เพื่อช่วยศัตรูของชาติ
Man behind NSA leaks says he did it to safeguard privacy, liberty
แหล่งที่มา : http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000112321
http://www.stou.ac.th/forum/page/Answer.aspx?idindex=144379